เผยโฉมแล้ว! Toyota C-HR 2018 ตัวขายจริงในไทยกับ 4 รุ่นย่อย 2 รุ่น Hybrid

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 30 พ.ย 2560
แชร์ 1

เผาหัวกันมานานอย่างต่อเนื่อง ทั้งรีวิวจากต่างประเทศและภาพหลุดรถทดสอบที่มีออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้งที่ไทย ในที่สุด ได้ฤกษ์เผยโฉมสักทีกับ Toyota C-HR 2018 เวอร์ชั่นขายในประเทศไทย ที่มากับ 4 รุ่นย่อย 2 รุ่น Hybrid ในราคาเริ่มต้นเกือบล้านบาทไทย ภายในงาน Motor Expo 2017

Toyota C-HR ตัวขายจริงในไทยมี 4 รุ่นย่อย 2 รุ่น Hybrid

Toyota C-HR ตัวขายจริงในไทยมี 4 รุ่นย่อย 2 รุ่น Hybrid
 

แม้จะมีภาพรถคันจริงที่ทำให้เราได้เห็นเจ้ารุ่นนี้มานานแล้ว และหลายๆ คนต่างภาวนาให้ทาง Toyota ประเทศไทยนำรถรุ่นนี้เข้ามาขาย ผนวกกับกระแสของรถแนว Crossover เป็นไปในทางที่ดี คู่แข่งหลายๆ รุ่นทั้ง Honda HR-V, Mazda CX-3, Nissan JUKE หรือแม้แต่ Subaru XV กลายเป็นแรงกระตุ้นให้ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota นิ่งเฉยในตลาดรถประเภทนี้ไม่ได้อีกแล้ว
 

มีสีมาให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกันสำหรับ Toyota C-HR

มีสีมาให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกันสำหรับ Toyota C-HR

มีสีมาให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกันสำหรับ Toyota C-HR

มีสีมาให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกันสำหรับ Toyota C-HR
 

จนในที่สุดภายในงาน Motor Expo 2017 ครั้งนี้ทาง Toyota ก็ได้นำ Toyota C-HR 2018 เวอร์ชั่นสำหรับขายจริงในประเทศไทย มาได้ให้ผู้ชมในงานยลโฉมและสัมผัสตัวเป็นๆ กันเป็นครั้งแรก รวมถึงเผยรายละเอียดของรุ่นย่อยทั้งหมดที่จะมีในรถรุ่นนี้
 

โดย Toyota C-HR จะแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยและราคาโดยประมาณในแต่ละรุ่นมีดังต่อไปนี้

  • 1.8 Entry  9xx,xxx บาท (เครื่องยนต์เบนซิน)

  • 1.8 MID  1,0xx,000 บาท (เครื่องยนต์เบนซิน)

  • 1.8 Hybrid MID  1,0xx,000 บาท (เครื่องยนต์แบบไฮบริด)

  • 1.8 Hybrid High  1,1xx,000 บาท (เครื่องยนต์แบบไฮบริด)
     

เรื่องราคาทาง Toyota ยังไม่มีการเผยตัวเลขที่ชัดเจนออกมาแต่คาดว่าจะไม่เกิน 1.2 ล้านบาท เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda HR-V ที่เป็นอันดับหนึ่งของตลาดรถ Crossover SUV ขนาดกลางอยู่ในตอนนี้ซึ่งมี 4 รุ่นย่อยเช่นกัน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 933,000 บาท ก็อาจทำให้ผู้ซื้อเกิดการลังเลได้พอสมควร ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี

ภายในของ Toyota C-HR

ภายในของ Toyota C-HR

ภายในของ Toyota C-HR

ภายในของ Toyota C-HR
 

ราคาของ Honda HR-V ทั้ง 4 รุ่นย่อยมีดังต่อไปนี้

  • HR-V S AT ราคา 933,000 บาท

  • HR-V E AT ราคา 999,000 บาท

  • HR-V E Limited AT ราคา 1,050,000 บาท

  • HR-V EL AT ราคา 1,099,000 บาท
     

แต่ที่น่าสนใจกว่าของ Toyota C-HR นอกจากเรื่องของความสดใหม่แล้ว ยังมีเรื่องของตัวเลือกของเครื่องยนต์ ที่มีมาให้เลือก 2 รุ่นย่อยที่เป็นเครื่องยนต์ Hybrid โดยรายละเอียดของเครื่องยนต์ Toyota C-HR เวอร์ชั่นขายในไทยมีดังต่อไปนี้
 

รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8L (1.8 Entry, 1.8 MID)

ทาง Toyota ใช้เครื่องยนต์ลูกเดียวกับที่ใช้อยู่ใน Altis รุ่น 1.8L กับรหัส 2ZR-FBE 4 สูบ 1.8L ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 141 แรงม้าจับคู่กับเกียร์ CVT 7 Speed แบบขับเคลื่อนล้อหน้าและสามารถรองรับน้ำมัน E85
 

รุ่นเครื่องยนต์ 1.8L + มอเตอร์ไฟฟ้า (1.8 Hybrid MID, 1.8 Hybrid High)

กับเครื่องยนต์บล็อคนี้รหัส 2ZR-FXE เคยถูกนำมาใช้แล้วในรุ่น Prius ถูกมาสานต่อนวัตกรรมไฮบริด เป็นเครื่องยนต์แบบ DOHC Atkinson cycle ขนาด 1.8L ให้กำลัง 98 แรงม้า พร้อมทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังอยู่ที่ 72 แรงม้า แบตเตอรี่เก็บไฟเป็นแบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) 28 Modules 6.5 Ah จับคู่กันส่งกำลังไปที่เกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT
 

ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ Prius ในรุ่นไฮบริด

ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ Prius ในรุ่นไฮบริด
 

นอกจาก Toyota C-HR จะมาพร้อมกับถุงลมนิรภัยถึง 7 ใบในทุกรุ่นย่อยแล้ว รุ่นท็อปสุดอย่าง 1.8 Hybrid High ยังมีการนำเทคโนโลยีการใช้ Laser Radar และกล้องเข้ามาช่วยในการขับขี่ปลอดภัยที่เรียกว่า TOYOTA SAFETY SENSE P (TSS-P) มีดังต่อไปนี้

  • Automatic High Beam Control ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (TSS-P)

  • Pre-Collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (TSS-P)

  • Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน (TSS-P)

  • Lane Departure Warning With Steering Assist ระบบเตือนในขณะรถออกนอกเลน พร้อมดึงหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ (TSS-P)
     

เทคโนโลยรความปลอดภัยขั้นสูง TOYOTA SAFETY SENSE P มีมาให้ใน C-HR

เทคโนโลยรความปลอดภัยขั้นสูง TOYOTA SAFETY SENSE P มีมาให้ใน C-HR
 

ส่วนออพชั่นความสะดวกสบายที่น่าสนใจอีกหลายอย่างที่มีอยู่ใน Toyota C-HR ได้แก่

  • T-Connect ‘เชื่อมต่อชีวิต ไรขีดจำกัด’ สำหรับการนำทาง

  • SOS Emergency Service การให้บริการฉุกเฉินเมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง

  • Parking Alert ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถถูกสตาร์ทหรือเคลื่อนที่ ผ่าน Application

  • Find My Car การตรวจสอบพิกัดรถยนต์ เพื่อป้องกันการสูญหาย ผ่าน Application

  • ระบบเตือนลมยางอ่อน
     

C-HR มาพร้อมกับความสะดวกสบายและอุ่นใจกว่าผ่านการแจ้งเตือนโดยแอพ

C-HR มาพร้อมกับความสะดวกสบายและอุ่นใจกว่าผ่านการแจ้งเตือนโดยแอพ

C-HR มาพร้อมกับความสะดวกสบายและอุ่นใจกว่าผ่านการแจ้งเตือนโดยแอพ
 

ความน่าสนใจเรื่องออพชั่นแบบเต็มๆ คงต้องรอวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ สเปคเต็มๆ อีกครั้งว่ารุ่นย่อยไหนจะให้อะไรมาบ้างหรือความพิเศษของ Toyota C-HR นี้จะมีมาให้แต่รุ่นท็อปไฮบริดเพียงอย่างเดียว

 

สำหรับรุ่นไฮบริดมอบความพิเศษให้ยิ่งขึ้นด้วยตัวเลือกสีรถแบบทูโทนที่มาพร้อมกับหลังคาสีดำเงา จะไม่มีให้ในรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดาและน่าเสียดายยิ่งกว่านั้นคือสำหรับคนที่ต้องการสีสดใส แบบจี๊ดจ๊าด จะมีให้แต่เฉพาะรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ไฮบริดเท่านั้นซึ่งตัวถังของ Toyota C-HR เวอร์ชั่นขายในไทยนี้มีออกมาให้เลือกด้วยกัน 6 สีดังต่อไปนี้
 

  • สีขาวมุก White Pearl Crystal (เลือกได้ทุกรุ่นย่อย)

  • สีเทาเงิน Metal Stream Metallic (เลือกได้ทุกรุ่นย่อย)

  • สีดำ Attitude Black Mica (เลือกได้ทุกรุ่นย่อย)

  • สีทูโทนแดง-หลังคาดำ Premium Red / Black Roof (เลือกได้เฉพาะรุ่นไฮบริด)

  • สีทูโทนน้ำเงิน-หลังคาดำ Blue Metallic / Black Roof (เลือกได้เฉพาะรุ่นไฮบริด)

  • สีทูโทนเขียวมิ้นท์-หลังคาดำ Radiant Green Metallic / Black Roof (เลือกได้เฉพาะรุ่นไฮบริด)
     

โดยคาดว่าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Toyota C-HR พร้อมตัวเลขราคาที่ชัดเจน

รายละเอียดอุปกรณ์ในรุ่นย่อยต่างๆ จะอยู่ในช่วงก่อนงานแสดงรถที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยกับงาน Bangkok Motor Show 2018 แต่ถ้าใครอยากไปทดลองจับ สัมผัสรถคันจริงกันก่อน ก็สามารถไปชมได้ภายในงาน Motor Expo 2017 ที่เมืองทองธานีระหว่างวันที่ 30 พฤษจิกายน จนถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2560

 

ดูเพิ่มเติม :: 

>> Toyota C-HR มีการแนะนำตัวแล้วในมาเลเซีย
>> Toyota C-HR R-Tuned 2018 เวอร์ชั่นพิเศษสำหรับลงสนามแข่ง เตรียมเผยโฉมที่งาน SEMA Show 2017

แท็ก Motor Expo 2017