จับ SUV มาท้าชน!! เปรียบเทียบ Toyota Fortuner กับ Ford Everest

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 6 ม.ค 2562
แชร์ 11

เปิดศึกกลุ่มรถ SUV 2 รุ่นที่น่าจับตามองที่สุดระหว่าง Toyota Fortuner กับ Ford Everest ในราคาล้านกลางๆ รถรุ่นไหนจะคุ้มค่า คุ้มราคามากกว่ากัน

เปรียบเทียบ Toyota Fortuner ปะทะ Ford Everest รุ่นไหนจะดีกว่ากัน

เปรียบเทียบ Toyota Fortuner ปะทะ Ford Everest รุ่นไหนจะดีกว่ากัน

เปรียบเทียบ Toyota Fortuner ปะทะ Ford Everest รุ่นไหนจะดีกว่ากัน

รถ SUV...รถเอนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง ขับเที่ยวทางไกล และแน่นอนว่าเหมาะสำหรับการเป็นรถครอบครัวอย่างถึงที่สุด ในวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบ 2 รุ่นใหญ่ในตลาดรถ SUV กัน นั่นก็คือ Toyota Fortuner และ Ford Everest ที่เรียกได้ว่าเป็นตัว Top ของกลุ่มนี้เลยก็ว่าได้
 

Toyota Fortuner Concept

Toyota Fortuner 2018

ยังคงเป็นเจ้าตลาดที่มียอดขายอันดับหนึ่งในตลาดรถ SUV เมืองไทย โดยโฉมนี้กลับมาพร้อมสัมผัสใหม่ของยนตรกรรม สะท้อนภาพลักษณ์ที่เหนือชั้น และสมรรถนะการขับเคลื่อน โดยในปี 2018 ที่ผ่านมา Toyota Fortuner ได้เปิดตัวรุ่น ไมเนอร์เชนจ์ TRD Sportivo โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์สปอร์ตขั้นสุด ที่มาพร้อมกับสีทูโทนสุดเรียบเท่ ในราคาขายเริ่มต้นที่ 1,239,000 บาท จนไปถึง 1,729,500 บาท

Ford Everest รถ SUV เกรดพรีเมี่ยมของตลาด

Ford Everest รถ SUV เกรดพรีเมี่ยมของตลาด

Ford Everest 2018

Ford Everest เป็นรถยนต์ SUV เกรดพรีเมี่ยมที่สุดในตลาดเลยก็ว่าได้ โดยเจนเนอเรชั่นใหม่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 มาพร้อมกับรูปลักษณ์แบบอเมริกัน พร้อมจัดเต็มกับความพรีเมียมด้วยออฟชั่น และการใส่ใจด้านความสะดวกสบายในการใช้งานภายในตัว แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรุ่นยอกนิยมที่สดในตลาด แต่ด้วยดีไซน์ และสมรรถนะถือว่าไม่แพ้กันเลย

ดูเพิ่มเติม​
>> 
มาดูกันหน่อยว่า... Ford everest 2018 รุ่นนี้มีดีอะไร ?
>> 
ท้าชน! Ford Everest 2019 VS Mitsubishi Pajero Sport 2019 คันไหนดี?​

Toyota Fortuner กับโฉมที่ดุดันในทุกด้าน

Toyota Fortuner กับโฉมที่ดุดันในทุกด้าน

Toyota Fortuner กับโฉมที่ดุดันในทุกด้าน

Toyota Fortuner กับโฉมที่ดุดันในทุกด้าน

1. Exterior Design

Toyota Fortuner 2018

Toyota Fortuner ให้ความโดดเด่นอย่างลงตัวจากเส้นสายรอบคันที่มีการปรับให้ดูปราดเปรียวสปอร์ตมากขึ้น กอปรกับกระจังหน้าสี Dark Chrome สุดโฉบเฉี่ยว พร้อมคิ้วขอบป้ายทะเบียนสี Dark Chrome เช่นเดียวกันเติมเต็มทุกความแข็งแกร่งผสานกับความสวยงามด้วยบันไดข้างสีเงินแบบใหม่ล่าสุด อีกทั้ง Toyota Fortuner TRD Sportivo 2018 โฉมนี้ได้รับการออกแบบไฟหน้าให้ติดมากับเลนส์โปรเจคเตอร์แบบ Bi-Beam LED ดีไซน์ใหม่ล่าสุดจากโตโยต้าทำงานร่วมกับระบบควบคุมการเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติพร้อมระบบ Follow-me-home รวมถึงให้ความสะดวกด้วยระบบปรับไฟหน้าสูงต่ำอัตโนมัติ เสริมด้วยยางกันโคลนหน้าหลัง ราวหลังคาเพื่อเก็บสัมภาระ ที่ปัดน้ำฝนหน้า-หลัง แบบปรับตั้งเวลา รวมถึงป้ายสัญลักษณ์พิเศษเฉพาะรุ่น TRD Sportivo ทั้งนี้ในรุ่น Black Top มีการติดฟิล์มดำเสริมความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเข้าไปด้วย ส่วนช่วงล่างติดมากับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50

>> รับข้อมูลรายละเอียดดูได้ในหมวดราคา: ฟอร์จูน เนอ ร์ มือ สอง

Ford Everest มาพร้อมกับโฉมที่ดุดัน แต่ยังคงความหรูแบบพรีเมียมอยู่

Ford Everest มาพร้อมกับโฉมที่ดุดัน แต่ยังคงความหรูแบบพรีเมียมอยู่

Ford Everest มาพร้อมกับโฉมที่ดุดัน แต่ยังคงความหรูแบบพรีเมียมอยู่

Ford Everest มาพร้อมกับโฉมที่ดุดัน แต่ยังคงความหรูแบบพรีเมียมอยู่

Ford Everest  2018

Ford Everest บรรจงสร้างมาเพื่อครอบครัวนักผจญภัยโดยเฉพาะ เพราะนอกจากเป็นรถ SUV เอนกประสงค์แล้ว Ford Everest ยังสวมวิญญาณออฟโรดมาพร้อมลุยทุกสถานการณ์ โดดเด่นสะดุดตาด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่ มาพร้อมกับไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ HID และไฟส่องสว่างช่วงเวลากลางวันและไฟท้ายเป็นแบบ LED ส่วนประตูหลังก็สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมล้ออัลลอยแบบก้านคู่ (Split-Spoke) ขนาด 20 นิ้วในรุ่น Titanium+ โดยเป็นขนาด 18 นิ้ว 6 ก้าน สีทูโทนในรุ่น Titanium และขนาด 17 นิ้ว 6 ก้าน ในรุ่น Trend ที่ช่วยเสริมให้รถดูดุดัน และหรูหราอย่างมีระดับ Ford Everest มีให้เลือกมากถึง 6 สี คือ สีแดง สีเงิน สีดำ สีขาว สีทอง และสีฟ้า

Toyota Fortuner รุ่นปกติมาพร้อมกับภายในตกแต่งแบบเรียบง่าย และเบาะนั่ง 7 ที่นั่ง

Toyota Fortuner รุ่นปกติมาพร้อมกับภายในตกแต่งแบบเรียบง่าย และเบาะนั่ง 7 ที่นั่ง

Toyota Fortuner รุ่นปกติมาพร้อมกับภายในตกแต่งแบบเรียบง่าย และเบาะนั่ง 7 ที่นั่ง

2. Interior Design

Toyota Fortuner 2018

ความโฉบเฉี่ยวจากเดิมด้วยการดีไซน์ภายในสีดำแผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์สีดำสลับแดง และแถบสี Dark Silver ช่องปรับอากาศด้านหน้าโดดเด่นจากแถบสี Dark Silver และ โครเมียม ขณะที่เบาะนั่งตกแต่งด้วยสีดำสลับแดงเพิ่มความสะดุดตาด้วยการเดินด้ายสีแดง โดยเบาะนั่งแถวที่ 1 มาพร้อมกับรูปทรงสปอร์ตปรับระดับสูง-ต่ำด้วยไฟฟ้าทั้งในด้านผู้ขับ และ ผู้โดยสาร เบาะนั่งแถวที่ 2 แบ่งส่วน 60:40 พร้อมที่พักแขนแบบพับเก็บได้และที่วางแก้วน้ำพร้อมระบบพับและยกขึ้นจังหวะเดียว เบาะนั่งแถวที่ 3 แบ่งส่วน 50:50 ปรับเอนและพับเก็บได้

ให้ความหรูหราด้วยฟังก์ชั่นสุดทันสมัยจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MId) แบบจอสี TFT พร้อมมาตรวัดเรืองแสง Optitron สีแดงลาย Carbon Kevlar ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ ให้เสียงกระหึ่มด้วยชุดเครื่องเสียง Premium Audio พาวเวอร์แอมป์ และ ลำโพง จาก JBL ทำงานผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ติดตั้งลำโพงกว่า 9 จุด พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB , AUX วิทยุ FM/AM เครื่องเล่นเสียง DVD และ เชื่อมต่อระบบนำทาง T-Connect

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหนังสีดำ แบบเรียบหรู สามารถพับเรียบได้ทั้ง 2 แถว

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหนังสีดำ แบบเรียบหรู สามารถพับเรียบได้ทั้ง 2 แถว

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหนังสีดำ แบบเรียบหรู สามารถพับเรียบได้ทั้ง 2 แถว

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหนังสีดำ แบบเรียบหรู สามารถพับเรียบได้ทั้ง 2 แถว

Ford Everest 2018

ภายในห้องโดยสารของ Ford Everest เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับห้องโดยสารที่กว้างขวางทำให้รู้สึกโล่งสบาย เบาะนั่งเป็นหนังแท้ สามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้ารวมทั้งเบาะหลังแถวที่ 3 ที่สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้เพียงกดปุ่ม มีการนำเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนเข้ามา โดยการใช้ไมโครโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงในการวัดระดับเสียงรถยนต์และการตรวจจับ เพื่อปล่อยคลื่นเสียงต้านออกมาเพื่อลดการได้เสียงจากภายนอก หลังคาเป็นหลังคาแบบ Panoramic Moon Roof ปรับด้วยระบบไฟฟ้า ที่ทำให้ผู้โดยสารสามารถสัมผัสกับบรรยากาศเย็นๆ สดชื่นจากภายนอกได้อย่างเต็มที่

ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM 3 ทำสามารถโทรศัพท์เพียงแค่เรียกชื่อของผู้ที่ต้องการโทรหา หรือเล่นเพลงผ่านแอพพลิเคชั่น JOOX ที่สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียงหรือจะสั่งงานผ่านจอสัมผัสแบบ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว ก็ได้ และยังมีระบบนำทาง Navigation System แบบภาษาไทย พร้อมทั้งรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ให้คุณสามารถสื่อสารกับ Siri และเล่นวิทยุทั่วโลกผ่าน Internet ได้ทันที

Toyota Fortuner มาพร้อมกับขุมพลัง 3 แบบ

Toyota Fortuner มาพร้อมกับขุมพลัง 3 แบบ

Toyota Fortuner มาพร้อมกับขุมพลัง 3 แบบ

3. ขุมพลัง

Toyota Fortuner 2018 

Toyota Fortuner 2018 ทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 1 GD-FTV High 4 สูบแถวเรียง 16 วาว์ล DOHC VN Turbo และ Intercooler ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 450 นิว-ตันเมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที เสริมด้วยระบบ Stop & Start พร้อม Evaporator ที่ช่วยเก็บความเย็นของระบบปรับอากาศให้ความเย็นสดชื่นแม้ดับเครื่องยนต์ ส่งผ่านทุกอัตราการเร่งด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift เสริมด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ Sigma 4 เฉพาะในรุ่นขับเคลื่อน 4WD ที่ออกแบบให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดเกียร์เข้ากับสภาพเส้นทาง ได้แก่ โหมด H2 ขับเคลื่อน 2 ล้อ บนพื้นผิวถนนปกติ , โหมด H4 ขับเคลื่อนบนถนนเปียกลื่น และ โหมด L4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในเส้นทางวิบาก แตกต่างด้วยช่วงล่างระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง คอยส์สปริงและช้อคแอบซอร์บเบอร์ ส่วนด้านหลังติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบโฟร์ลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลงคอยส์สปริงและโช้คแอบซอร์บเบอร์ นอกจากนี้แล้วเพิ่มฟีเจอร์ช่วงล่างดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อนเข้ามาในรถยนต์

เครื่องยนต์ของ Ford Everest มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 แบบ เบนซิน และดีเซล

เครื่องยนต์ของ Ford Everest มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 แบบ เบนซิน และดีเซล

Ford Everest 2018  

ขุมพลังของ Ford Everest 2018 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ประกอบด้วย เครื่องยนต์ดีเซล Bi-turbo ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย โดยแบ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเทอร์โบ จำนวน 3 รุ่น และดีเซล 2.0 ลิตร Bi-turbo พร้อมระบบขับเคลื่อน 4WD อีก 1 รุ่น ดังนี้

  • Titanium+ 2.0 Bi-turbo 4WD 10AT
  • Titanium+ 2.0 Turbo 2WD 10AT
  • Titanium 2.0 Turbo 2WD 10AT
  • Trend 2.0 Turbo 2WD 10AT

ในรุ่น Titanium+ มาพร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะ (Autonomous Emergency Braking พร้อม Pedestrian Detection และ Vehicle Detection) ซึ่งทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 3.6 กม./ชม. เป็นต้นไป

มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง และม่านนิรภัย

มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง และม่านนิรภัย

ช่วงล่าง และระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้ายแบบ TSC

ช่วงล่าง และระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้ายแบบ TSC

4. ระบบความปลอดภัย

Toyota Fortuner 2018

ระบบความปลอดภัยจากการรีวิว Toyota Fortuner TRD Sportivo 2018 ทั้งในรุ่นธรรมดา และ รุ่น Black Top ให้ความมั่นใจได้อย่างดีเยี่ยมเมื่อขับขี่ผ่านพื้นที่มีความลาดชันสูงด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ให้ทุกการเบรกอย่างมั่นใจกับระบบเสริมแรงเบรก BA ประสานการทำงานร่วมกับระบบกระจายแรงเบรก EBD และ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พิเศษสุดกับฟังก์ชั่นระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้งแบบ VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC

นอกจากนี้แล้ว Toyota Fortuner โฉมนี้ยังเพิ่มขีดความสามารถในการปกป้องด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พร้อมโครงเหล็กนิรภัยด้านข้าง เพิ่มการปกป้องสูงสุดด้วยระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านผู้ขับ , ด้านข้าง , ผู้โดยสาร หัวเข่าผู้ขับขี่ , พร้อมม่านถุงลมนิรภัย และ เข็มขัดนิรภัย 3 จุดทุกที่นั่ง ทำให้ช่วยลดการบาดเจ็บเมื่อประสบอุบัติเหตุได้มากทีเดียว Toyota Fortuner TRD Sportivo 2018 ให้ความสะดวกเพิ่มมากขึ้นเมื่อทำการถอยด้วยระบบเซ็นเซอร์บอกระยะถอยหลังผสานการทำงานร่วมกับกล้องมองภาพด้านหลังให้ทัศนวิสัยทีดีเยี่ยมเสริมด้วยระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้ายแบบ TSC

ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมกล้องมองหลัง

ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมกล้องมองหลัง

ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมกล้องมองหลัง

Ford Everest 2018

ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารโดยได้ให้ถุงลมนิรภัยมาถึง 7 จุด มีทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย ไม่ว่าจะนั่งแถวไหนก็ปลอดภัยได้เช่นกัน และมีถุงลมนิรภัยกันหัวเข่าด้านคนขับอีกด้วย ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ช่วยให้ผู้ขับมั่นใจในทุกการขับขี่และทุกสภาพถนน ระบบนี้ช่วยให้รถเกาะถนนมากขึ้น ไม่ว่าจะเข้าโค้งหรือในช่วงที่เร่งแซง รถก็ยังสามารถปรับการทรงตัวให้นิ่งตลอดการเดินทาง พวงมาลัยของ Ford Everest เป็นพวงมาลัยแบบเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า และชดเชยน้ำหนักของพวงมาลัยทำให้การควบคุมควบทำงานได้มากขึ้น ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ เพียงแค่กดปุ่มระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบก็จะช่วยหาพื้นที่ในการจอดรถให้พอเหมาะกับขนาดของรถ จากนั้นก็สามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยแล้วให้ระบบช่วยจอดอัจฉริยะทำงานต่อไปเพียงแค่ควบคุมเกียร์ คันเร่ง และเบรกไปตามปกติ ระบบตรวจจับรถในจุดบอดและระบบตรวจจับรถขณะออกจากที่จอด รวมถึงมีระบบนำออกจากที่จอดอีกด้วย

ระบบ Lane Keeping System ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ในกรณีที่รถของคุณเบี่ยงออกนอกเส้นทางโดยไม่ตั้งใจ และไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ระบบ Lane Keeping System จะเป็นตัวช่วยเดือนด้วยการสั่นพวงมาลัยเพื่อเตือนให้กลับเข้าสู่เลน ระบบเตือนการชนด้านหน้าและระบบควบคุมระยะห่างแบบอัตโนมัติ เพียงแค่กดปุ่ม ระบบจะช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม โดยจะช่วยเบรกเมื่อรถใช้ความเร็วมากเกิด และช่วยเร่งความเร็วเมื่อรถเริ่มทิ้งห่างจากคันหน้ามากจนเกินไป และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชันและระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน ช่วยให้การออกตัวรถขณะจอดในทางลาดชันทำได้ดี มั่นใจและปลอดภัย โดยระบบจะคงการเบรกเพื่อให้อีก 2 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล

Toyota Fortuner มี 8 รุ่นย่อย

Toyota Fortuner มี 8 รุ่นย่อย

5. ราคา

Toyota Fortuner 2018

มีวางจำหน่ายทั้งหมด 8 รุ่น ดังต่อไปนี้

  • ราคา Toyota Fortuner 2.4G MT 2WD ราคา 1,239,000 บาท
  • ราคา Toyota Fortuner 2.4V AT 2WD ราคา 1,419,000 บาท
  • ราคา Toyota Fortuner 2.4V 4WD AT ราคา 1,499,000 บาท
  • ราคา Toyota Fortuner 2.7V AT ราคา 1,569,000 บาท
  • ราคา Toyota Fortuner 2.8V AT 2WD ราคา 1,593,000 บาท
  • ราคา Toyota Fortuner 2.8V AT 4WD ราคา 1,663,000 บาท
  • ราคา Toyota Fortuner 2.8V TRD Sportivo 2WD ราคา 1,689,000 บาท
  • ราคา Toyota Fortuner 2.8V TRD Sportivo 4WD ราคา 1,759,000 บาท

สีให้เลือกทั้งหมด ได้แก่  สีดำ, สีเทา, สีน้ำเงิน, สีน้ำตาล, สีเงิน, สีขาว, สี Super White และสีขาวมุก (เพิ่ม 12,000 บาท)
 

Ford Everest Concept

Ford Everest 2018

 มีวางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น ตามราคาดังต่อไปนี้:

  • รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,799,000 บาท
  • รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,599,000 บาท
  • รุ่นไทเทเนี่ยม เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,439,000 บาท
  • รุ่นเทรนด์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,299,000 บาท

มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี รวมถึงสีใหม่ Diffused Silver Metallic และสีมาตรฐาน ได้แก่ Aluminum Metallic, Absolute Black Metallic, Arctic White, Sunset Metallic และ Blue Reflex Metallic

ดูเพิ่มเติม
>> 
5 อันดับยอดขายรถกระบะทั่วทั้งโลก เป็นรุ่นไหนกันบ้าง
>> 
ศึกรถมือสอง !! ระหว่าง Toyota Fortuner และ Mitsubishi Pajero Sport มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร ?​

Toyota Fortuner 2018

Toyota Fortuner 2018

Ford Evertest 2018

Ford Evertest 2018

สรุป

เรียกได้ว่าเป็น 2 รุ่นที่สูสีกันมาก ตีคู่ตำแหน่งรถ SUV น่าใช้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แต่ดูเหมือนว่า Ford Everest จะขับได้นิ่มนวลมากกว่า Toyota Fortuner สำหรับราคาก็ไม่ได้ต่างกันมาก Toyota Fortuner ราคาถูกกว่า Ford Everest ในราคาหลักหมื่นเท่านั้น ในรุ่นท็อปสุด Toyota Fortuner ราคาถูกกว่าเพียง 40,000 บาท และรุ่นล่างสุด Toyota Fortuner ถูกกว่า60,000 บาท แต่หากใครชอบความรู้สึกพรีเมียมในการขับขี่ก็เหมาะกับการซื้อ Ford Everest แต่อย่างไรก็ตามรถรุ่นไหนจะถูกใจผู้ขี่มากกว่ากัน ผู้ซื้อต้องไปลองขับเองเท่านั้นนะคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบเรื่องต่อไปจะเป็นรถยนต์รุ่นใด สามารถติดตามได้ที่ Chobrod.com เช่นเคยค่ะ

ดูข้อมูลรถยนต์เพิ่มเติม เชิญที่นี่

ต้องการซื้อ ตรงนี้