จำให้ขึ้นใจ “ซื้อรถบ้านมือสอง” 4 ข้อที่ต้องไม่พลาด

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 18 ก.ค 2562
แชร์ 3

เป็นที่คุ้นเคยกันอย่างดีว่า หากจะเลือกซื้อ "รถยนต์มือสอง" หลายคนอาจคิดว่าคงจะมีเพียงแค่การเดินเข้าไปตามเต๊นท์รถมือสองต่างๆ ที่กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ แล้วเล็ง เลือก ถูกใจ ตกลง ทำเอกสาร ชำระเงิน รับรถออกมา ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

แต่ก็ยังมี "รถบ้านใช้แล้ว" ในตลาดรถเหมือนกัน ที่เจ้าของรถขายเอง ประกาศขายตามเว็บไซต์ต่างๆ อย่างเช่น Chobrod ของเรา หรือการแปะป้ายไว้ที่รถยนต์คันที่ต้องการจะขายแล้วจอดไว้ข้างถนน ให้กับคนที่สนใจรถรุ่นนี้ เผื่อว่าจะใจตรงกันและติดต่อกับเจ้าของรถยนต์เพื่อทำการซื้อขาย

กับประเด็นการ "ซื้อรถบ้าน" นี่แหล่ะ ที่จะต้องรอบคอบเหมือนกันโดยเฉพาะกับคนที่ต้องการรถมือสองประเภทนี้ เพราะหากไม่เช็คสภาพกันให้ดี อาจจะเจอของย้อมแมวเอาได้ง่ายๆ ดังนั้น วิธีการ เช็ค และขั้นตอนต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ และจดจำเอาไว้ เริ่มจาก

ทริคดีๆ กับคนที่เล็ง

ทริคดีๆ กับคนที่เล็ง "รถบ้านมือสอง" เอาไว้ จะต้องไม่พลาด เพราะไม่เช่นนั้นอาจเจอ "ย้อมแมว" ได้ 

เช็คสภาพ ทดลองขับก่อนตัดสินใจ

สำคัญมากกับการเช็คสภาพของ "รถมือสอง" ที่เป็นรถบ้านเจ้าของขายเอง เพราะคนที่จะซื้อจะต้องเช็คสภาพกันเองว่ารถยนต์คันที่เล็งเอาไว้ มีสภาพการใช้งานที่ผ่านมาเหมาะสมกับราคาที่จะขายอยู่หรือไม่ ทั้งการเช็คสีภายนอกตัวถัง โครงสร้างที่สำคัญว่าเคยผ่านการชนหนักและซ่อมหนักมาแล้วหรือไม่

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเลขไมล์ที่ต้องสัมพันธ์กับปีการผลิต และไม่กระโดดดูน้อยมากไปกว่าความเป็นจริง ภายในก็ต้องเช็คทั้งระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง ระบบไฟต่างๆ ภายในว่าทำงานได้ดี

จากนั้นก็ต้องทดลองขับเพื่อสัมผัสกับการใช้งานจริง ทั้งช่วงล่างที่ทำงานได้ดีหรือไม่ การกระตุกของเครื่องยนต์เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน เสียงของเครื่องยนต์ดูแล้วยังแข็งแรงดีหรือเปล่า ซึ่งการทดลองขับนี้ก็ควรจะขับทั้งความเร็วต่ำ ความเร็วสูง หรือการเข้าโค้งว่ามีการยึดเกาะดีหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการเช็คสภาพอาจจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนที่ไม่มีความรู้จริงๆ ดังนั้น การพาช่างรถยนต์ที่พอไว้ใจได้ไปดูรถด้วยกัน ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ป้องกันการได้รถไม่สมกับราคา

ปัจจุบัน

ปัจจุบัน "รถบ้าน" ก็มีการประกาศขายผ่านเว็บไซต์เช่นกัน รวมถึงที่จอดตามข้างถนนเพื่อประกาศขายด้วย

ถูกใจแล้ว ตกลงราคาให้ชัดเจน

เมื่อผ่านการทดสอบในเบื้องต้นแล้ว และตัดสินใจแล้วว่า "เอานะ" การตกลงราคาซื้อขายกับเจ้าของรถบ้านคันนั้นๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกับการทำสัญญา "จะซื้อ จะขาย" รถยนต์ระหว่างกัน ซึ่งต้องมีการกำหนดราคารถยนต์ไว้อย่างชัดเจน และเป็นที่เข้าใจระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายภายหลังที่อาจจะตามมา

หากต้องการซื้อรถแบบ "ผ่อน" ซึ่งรถบ้านมือสองเองก็ทำได้เช่นกัน แต่ผู้ซ์้อจะต้องหาสถาบันการเงิน หรือไฟแนนซ์มาเอง ซึ่งข้อนี้จะแตกต่างจากการซื้อรถมือสองจากตลาดรถที่เป็นเต๊นท์รถทั่วๆไป ซึ่งส่วนใหญ่เต๊นท์รถจะมีไฟแนนซ์มาตีราคาและคำนวนดอกเบี้ยให้กับผู้ซื้อเลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะปัจจุบันมีสถานบันการเงินหลายแห่งที่พร้อมจะให้บริการกับการซื้อรถบ้าน ซึ่งก็อยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ซื้อว่าจะเลือกใช้บริการที่ไหน เพราะจะมีอัตราดอกเบี้ย ยอดกู้ ที่จะแตกต่างกันออกไป

สิ่งสำคัญคือเมื่อได้ไฟแนนซ์มาแล้ว ผู้ที่ซื้อรถบ้านมือสอง จะต้องเตรียมเงินไว้จำนวนหนึ่งราว 1-3 หมื่นบาท ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์ ค่าประกันภัยรถยนต์ และค่าบริการไฟแนนซ์ ส่วนจะแพงหรือถูกก็ขึ้นอยู่กับราคารถที่ตกลงซื้อกับผู้ขาย และรุ่นพร้อมทั้งปีของรถยนต์คันนั้นๆ

ดูเพิ่มเติม
>> 
ดูแลรถมือสอง อย่างไรให้ใช้งานได้นาน ทำตามง่ายๆ ใช้ได้ทนทาน รถจะพังยากแน่นอน
>> เปิดเคล็ดลับเช็คสภาพรถมือสองให้ไม่โดนย้อมแมวรับรองไม่มีดราม่าแน่นอน

เมื่อถูกใจกับสภาพรถยนต์และทดลองขับแล้ว เรื่องราคาก็ศำคัญ เพราะต่อได้ต้องต่อ

เมื่อถูกใจกับสภาพรถยนต์และทดลองขับแล้ว เรื่องราคาก็ศำคัญ เพราะต่อได้ต้องต่อ 

เอกสารสำคัญที่จะซื้อจะขาย

คนที่ซื้อรถจะต้องไม่ลืมเตรียมเอกสารไปด้วยสำหรับการซื้อรถบ้านมือสอง ซึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมเอาไว้ก็มีดังนี้

- บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา

- ทะเบียนบ้านฉบับจริง พร้อมสำเนา

- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ฉบับล่าสุด หรือย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน

- สำเนาบัญชีเงินฝากออมทรัพย์, ประจำ, กระแสรายวันย้อนหลัง 6 เดือน - แผนที่ที่ตั้งที่อยู่อาศัย และที่ทำงาน

ขณะที่ในส่วนของคนขาย เอกสารที่ต้องเตรียมา ก็จะประกอบด้วย

- สำเนาบัตรประชาชน

- สำเนาทะเบียนบ้าน

- คู่มือจดทะเบียนรถ (หรือกรณียังผ่อนไม่หมด)

- สัญญาซื้อขาย

เอกสารครบ ไฟแนนซ์ไฟเขียว ก็เตรียมรับรถยนต์มือสองคันที่ต้องการได้เลย

เอกสารครบ ไฟแนนซ์ไฟเขียว ก็เตรียมรับรถยนต์มือสองคันที่ต้องการได้เลย 

เงินครบ เอกสารพร้อม รับรถได้เลย

เมื่อเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย และยื่นต่อไฟแนนซ์ในกรณีที่เลือกซื้อเงินผ่อนกับรถบ้านมือสอง ซึ่งตามปกติแล้วก็ใช้เวลาประเมินคุณสมบัติผู้ซื้อราว 7-10 วันทำการ และทุกอย่างไฟเขียว ผู้ขายจะรอรับเงินจากไฟแนนซ์ ส่วนผู้ซื้อก็ชำระเงินดาวน์ตามที่ตกลงกันไว้ หรืออาจจะไม่มีก็ได้ เมื่อชำระเสร็จสิ้นก็จะได้รถมือสองที่เป็นรถบ้านคันที่ต้องการมาครอง และการซื้อขายรถยนต์ก็เป็นอันสมบูรณ์

ดูเพิ่มเติม
>> 
รถมือสองราคาขายต่อดี มีรุ่นใดน่าใช้ รุ่นใดน่าลงทุน ซื้อไว้แล้วอาจได้กำไร
>> Ford มือสอง รุ่นไหนดี รวมให้ดูทุกรุ่น ในงบไม่เกิน 5 แสนบาท

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

Cop