ฝนตกหนัก เกิดอาการรถเหินน้ำ อันตรายที่ต้องระวัง

ประสบการณ์ใช้รถ | 29 พ.ค 2562
แชร์ 0

แอ่งน้ำบนถนน เกิดจากการที่ฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมขัง ซึ่งอันตรายมากกว่าการขับรถในพื้นที่น้ำท่วมขังซะอีก มาดูข้อสำคัญที่ควรระวังในการขับขี่ ป้องกันรถเหินน้ำ

แอ่งน้ำบนถนน เกิดจากการที่ฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมขัง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในระหว่างที่ฝนตก หรือแม้ว่าฝนหยุดตกไปแล้ว โดยมากเกิดจากถนนที่ออกแบบมาไม่ดี ไม่ราบเรียบเท่ากันทั้งหมด ทำให้เรามักจะเจอแอ่งน้ำบนถนน ต่างๆมากมาย เป็นลักษณะเชิงท่วมขังเป็นหย่อม โดยเฉพาะเส้นทางออกต่างจังหวัด ซึ่งอันตรายมากกว่าการขับรถในพื้นที่น้ำท่วมขังซะอีก

ขับรถหน้าฝน ระวังแอ่งน้ำบนถนน
ในช่วงหน้าฝน บางถนนมักเกิดเหตุน้ำท่วมขัง

ดังนั้นควรรู้ ข้อสำคัญที่ควรระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่ขับรถยังไม่เก่ง ยิ่งต้องควรทราบเอาไว้ และจำให้ขึ้นใจเลยทีเดียว เพื่อให้หน้าฝนนี้ แคล้วคล้าดปลอดภัยกันทั่วหน้า มาดูกันกว่าว่าวิธีรับมือและป้องกันเมื่อรถเหินน้ำ ต้องทำอย่างไรบ้าง

#1. อย่าหลบกะทันหัน

หลายครั้งที่พบเห็น หรือแม้กระทั่งประสบด้วยตัวเองก็มีไม่น้อย และถ้าคุณเป็นประเภทขับรถเจอแอ่งน้ำ แล้วรีบหักหลบกะทันหันแล้วล่ะก็ ขอให้เลิกพฤติกรรมนั้นเสีย เนื่องจากคุณกำลังเป็นตัวต้นเหตุของอุบัติเหตุอย่างไม่รู้ตัว หรือไม่ก็อาจจะพลาดท่าโดนชนเสียเอง ซึ่งต้องระวังเป็นอย่างมาก

#2. ประเมินสภาพแอ่งน้ำ

เมื่อเจอแอ่งน้ำ สิ่งสำคัญสุด คือ พยายามอย่าหักหลบกะทันหัน และใช้สายตามองทางอย่างรวดเร็วว่า สภาพแอ่งน้ำมีความลึกหรือไม่ โดยประเมินอ้างอิงจากเส้นถนนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเส้นขอบทาง หรือฟุตพาท ก็ช่วยทำให้คุณรู้ว่า กำลังจะเจอกับแอ่งน้ำที่มีความลึกหรือไม่

ป้องกันอาการรถเหินน้ำ ประเมินสภาพแอ่งน้ำ
ประเมินสภาพแอ่งน้ำขณะขับรถผ่าน

ในกรณีที่ แอ่งน้ำน่าจะมีความลึกพอสมควร และคุณคาดว่ารถจะไม่สามารถผ่านไปได้ ให้เบรก หรือ ชะลอ ก่อนที่จะเปลี่ยนทิศทางหลบแอ่งน้ำ แต่ถ้าคิดว่ารถพอจะผ่านไปได้  อาจสามารถลุยไปได้

ดูเพิ่มเติม
>> ดูแลรถหน้าฝน 6 อุปกรณ์ต้องเช็กก่อนเดินทาง

>> ทำไงดี! รถยนต์น้ำมันหมด เหตุฉุกเฉินระหว่างเดินทาง

#3. ลงแอ่งน้ำอย่างถูกต้อง

ในกรณีที่ คุณประเมินว่ารถคุณสามารถผ่านแอ่งน้ำได้  ให้ประเมินด้วยว่า รถเรากำลังจะลงแอ่งน้ำข้างใด และควรจัดการความเร็วที่ใช้ให้ลดต่ำลงก่อนเพื่อป้องกันอาการเหินน้ำ เพราะน้ำที่ท่วมขังเป็นจำนวนมากนั้น จะทำให้ยางรีดน้ำไม่ทัน ประกอบกับความเร็วและแรงดึงจากความหนาแน่นของน้ำในแอ่ง ซึ่งมีโอกาสที่รถจะเสียการทรงตัว โดยเฉพาะอาการหน้าแฉลบอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก

ขับรถผ่านแอ่งน้ำ
หากต้องขับรถผ่านแอ่งน้ำ ควรรักษาระดับการขับขี่ที่เหมาะสม

และสิ่งที่ต้องคำนึง ในกรณีที่คุณไม่สามารถเลี่ยงได้เมื่อต้องลงแอ่งน้ำ นั่นคือ

  • ห้ามเบรกอย่างรุนแรงขณะลงแอ่งน้ำ เนื่องจากแรงตึงนั้น มีไม่เท่ากัน จะทำให้รถเสียการทรงตัวได้
  • จับพวงมาลัยให้มั่นทั้งสองมือ เพื่อเตรียมพร้อมในการควบคุมรถ ในกรณีที่รถอาจจะแฉลบ
  • ลดความเร็วลง เพราะสามารถลดการเสียการทรงตัวของรถได้พอสมควร

 #4.ตรวจสอบยางรถยนต์

สิ่งที่ควรทำและสำคัญมากในหน้าฝน คือ ตรวจสอบยางรถยนต์ ถ้ายางกำลังจะสึก ดอกกำลังจะหมด ให้ทำการเปลี่ยนเสีย เพราะประสิทธิภาพการรีดน้ำของยางก็ลดลงตามไปด้วย อีกอย่างที่อยากฝากไว้ให้ตรวจสอบ นั่นคือ ต้องทราบว่ารถของเรานั้น เป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้าหรือล้อหลัง ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น ในกรณีที่รถคุณเกิดหน้าแฉลบนั่นเอง

และนี่ก็คือวิธีการรับมือและป้องกันอาการรถเหินน้ำ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยสำหรับช่วงหน้าฝนนี้ และนอกจากทุกข้อที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่ต้องคำนึงนั่นก็คือ การใช้ความเร็วในการขับขี่ที่เหมาะสมบนพื้นถนนที่เป็นแอ่ง ควรให้อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระมัดระวังทุกครั้งเวลาเหยียบเบรก ที่สำคัญที่สุด คือมีสติทุกครั้งในการเดินทาง ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการขับขี่ที่นำไปใช้ได้ทุกกรณี

ดูเพิ่มเติม
>> จอดรถ แล้วโดนชนท้าย ประกันรับเคลมหรือเปล่า?
>> วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถตกเขา

คุณจำเป็นต้องซื้อรถดูตอนนี้ รถมือสอง ขายดี